Q&A

Q&A

เพิ่มเติม

ประกันภัยรถยนต์ประเภท1 การเคลมต้องเป็นเหตุจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเหตุที่เกิดจากการชน ,เสียหลักพลิกคว่ำ หรือโดนภัยธรรมชาติ เช่นน้ำท่วม เป็นต้น ดังนั้นเหตุที่เกิดจากการเสื่อมสภาพจะไม่สามารถแจ้งเคลมได้ และความเสียหายที่มีก่อนการทำประกันภัยจะไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นกัน รวมถึงข้อยกเว้นบางประการเช่น ภัยก่อการร้าย(บางบริษัทประกันภัยมิได้ขยายความคุ้มครองให้ต้องตรวจสอบก่อนทำประกันภัย)

ประกันสุขภาพในยุคปัจจุบันประกอบไปด้วย 3 ประเภทหลักๆ 1.ประกันกลุ่ม ภายในองค์กร มีรายละเอียดคุ้มครอง คุ้มครองชีวิต คุ้มครองทุพลภาพ สุขภาพ IPD OPD ทันตกรรม โรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ 2.ประกันรายเดี่ยวทีละบุคคล คุ้มครองชีวิต ( มี 3 รูปแบบ ประกันชีวิต ประกันเงินออม ประกันควบการลงทุน ) คุ้มครองทุพลภาพ สุขภาพ IPD OPD ค่าชดเชย โรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ 3.ประกันกลุ่มภายในครอบครัว บิดา มารดา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีรายละเอียดคุ้มครอง สุขภาพ ค่าชดเชย โรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ

การทำประกันชีวิต มี 4 วัตถุประสงค์หลัก คือ

  1. ต้องการความคุ้มครองชีวิต เพื่อชดเชยรายได้ที่เกิดขึ้นให้กับครอบครัว หรือคนที่เขารักและเป็นห่วง
  2. ต้องการออมเงิน อย่างมีระบบ และมีผลตอบแทนมากกว่าการฝากแบบออมทรัพย์ทั่วไปที่ธนาคาร
  3. ต้องการวางแผนภาษีระยะยาว และระยะกลาง
  4. ต้องการวางแผนในกรณีเกิดทุพพลภาพถาวร

การทำประกันสุขภาพ มี 5 วัตถุประสงค์หลัก คือ

  1. ต้องการมีสวัสดิการเพิ่มเติมที่มากกว่าสวัสดิการพื้นฐานที่ได้รับเมื่อตอนเจ็บป่วย
  2. กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะสูงขึ้นเมื่อป่วยเป็นกลุ่มโรคร้ายแรง
  3. ต้องการมีค่าชดเชยรายได้ เพื่อชดเชยรายได้ที่อาจไม่เกิดขึ้น หรือสูญหายไป เมื่อตอนเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ
  4. ต้องการมีค่าใช้จ่ายในการดูแลตนเองในกรณีการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงที่ไม่ใช่แค่ค่ารักษาพยาบาล เช่น ค่าอาหารเสริมหรือ วิตามิน ที่ต้องทานเป็นพิเศษ รวมทั้งค่าจัางคนที่มาดูแลหากป่วยจนไม่สามารถทำภารกิจประจำวันได้ด้วยตนเอง
  5. ต้องการค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ เจ็บป่วยจนถึงขั้นทุพพลภาพถาวร ไม่สามารถหารายได้ได้ หรือความสามารถที่ลดลงจากการสูญเสียอวัยวะ

สรุปได้ว่า หากเราทำประกันชีวิตร่วมกับประกันสุขภาพก็จะทำให้เราลดความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากที่สุด แต่หากไม่ทำประกันชีวิตเลย และจะทำแต่ประกันสุขภาพอย่างเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน แปลว่าเราจะรับความเสี่ยงทางด้านอื่นไว้ด้วยตนเอง

การคิดแบบประกันของแต่ละที่มีหลักการคิดแบบประกันไม่เหมือนกัน บางบริษัทมีค่าห้องน้อย น่าจะเป็นจากการให้ความสำคัญด้านอื่นมากกว่าค่าห้อง อาจจะมีเงื่อนไขการเบิกส่วนอื่นที่มากขึ้น เช่น เพิ่มส่วนของค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น ค่าผ่าตัดมากขึ้น หรือ ค่าแพทย์ที่ทำการรักษามากขึ้น

สิ่งที่ผู้ต้องการซื้อประกันควรต้องพิจารณาว่า แบบประกันที่เราจะซื้อต้องตอบสนองกับสิ่งที่เรากังวล และต้องการ มากที่สุด นำข้อเสนอที่ได้รับมาเทียบกับสิ่งที่เราต้องการให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญควรเลือกใช้บริการกับตัวแทนที่เราให้ความไว้วางใจได้ในเรื่องการบริการ และควรมีการทบทวนข้อมูลและปรับปรุงข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และครอบครัว

งบประมาณ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการซื้อประกัน เพราะหากว่า เราซื้อประกันเกินงบที่เหมาะสมกับเรา จะทำให้เกิดการขาดอายุกรมธรรม์ได้ง่าย ซึ่งก็จะไม่ได้ประโยชน์ที่แท้จริงในการทำประกัน 

การซื้อประกันที่เหมาะสม คือ การซื้อแบบประกันที่ตอบสนองความต้องการที่เราอยากได้ ไในงบที่เรามีอย่างจำกัด และช่วยรองรับกับสิ่งที่เราต้องการและกังวลได้ โดยเราต้องเรียงลำดับความต้องการหรือความกังวลที่เรามี ค่อยๆทำ ตามความสามารถในการจ่ายเบี้ยของเรา ที่สำคัญเราสามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้จนครบกำหนดที่เราซื้อได้ โดยไม่ต้องกังวล และเราควรทำความเข้าใจเนื้อหาอย่างละเอียดก่อนซื้อประกันด้วย

จริง หากเรานำเฉพาะผลตอบแทนทางการเงินที่ได้จากตัวแบบประกันเพียงอย่างเดียว เช่น เงินคืน เงินครบกำหนด เงินปันผล มาคิด โดยไม่ได้นำผลตอบแทนเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องของความคุ้มครอง เรื่องของการหักลดหย่อนภาษี เรื่องการประกันเงินออมกรณีที่ผู้ฝากทุพพลภาพถาวรก่อนฝากเบี้ยประกันชีวิตครบกำหนด เรื่องการออมเงินให้บุตรเพื่อบรรลุเป้าหมายไม่ว่าผู้ปกครองจะยังคงมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต และไม่ว่าผู้ปกครองจะมีความสามารถทางด้านร่างกายในการทำงานสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์

หลักการการออมเงินกับกรมธรรม์ประกันชีวิต คือ การออมเงินระยะยาว มีระยะเวลาการคุ้มครองเกิน 10 ปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการออม จึงทำให้นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ และ หลายๆแบบประกันมีความคุ้มครองเพิ่มเติมในการคุ้มครองประกันเงินฝากให้กรณี ทุพพลภาพถาวร 

กรมธรรม์ประกันชีวิต มีค่าใช้จ่ายอยู่หลายส่วน คือ 

  • ค่าใช้จ่ายความคุ้มครองชีวิต 
  • ค่าใช้จ่ายความคุ้มครองกรณีทุพพลภาพ(ถ้ามี) 
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 
  • ค่าธรรมเนียมประกันภัย 
  • ค่าใช้จ่ายในการบริหารพอร์ต(ถ้ามี)

ดังนั้นเมื่อผู้ขายประกันมีการเสนอขายกับผู้มุ่งหวัง ต้องมีการชี้แจงเงื่อนไขในการทำประกันชีวิต ให้ถูกต้องและอธิบายเพิ่มเติมในกรณีที่ลูกค้าจะมีการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดว่าจะได้ประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ผู้มุ่งหวังใช้ในประกอบการตัดสินใจด้วย